การสร้าง Web3 (เว็บในยุคถัดไปที่เน้นการกระจายศูนย์และใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน) ต้องมีความรู้ทั้งทางเทคนิคและเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชน, สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts),
และโทเค็นดิจิทัล นี่คือขั้นตอนพื้นฐานที่คุณสามารถทำตามได้:
 

1. ทำความเข้าใจพื้นฐานของบล็อกเชนและ Web3

  • Blockchain: รู้จักวิธีการทำงานของบล็อกเชน เช่น Bitcoin, Ethereum หรือบล็อกเชนอื่นๆ ที่ใช้เป็นพื้นฐานของ Web3
  • Decentralization: เข้าใจหลักการของการกระจายศูนย์ ซึ่งไม่มีตัวกลางในการควบคุม เช่น ธนาคารหรือรัฐบาล
  • Smart Contracts: เข้าใจสัญญาอัจฉริยะ (เช่นบน Ethereum) ซึ่งทำให้การทำธุรกรรมและข้อตกลงอัตโนมัติ
     

2. เลือกบล็อกเชนที่ต้องการสร้างบน

  • บล็อกเชนที่นิยมใช้ในการพัฒนา Web3 ได้แก่ Ethereum, Binance Smart Chain, Polygon, และ Solana
  • การพัฒนา Web3 ส่วนใหญ่เกิดขึ้นบน Ethereum เนื่องจากเป็นบล็อกเชนแรกที่รองรับ Smart Contracts
     

3. ตั้งค่ากระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet)

คุณจะต้องใช้กระเป๋าเงินเช่น MetaMask ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับจัดการโทเค็นและเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Web3
 

4. เรียนรู้การเขียนสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract)

  • Solidity: เป็นภาษาที่ใช้ในการเขียนสัญญาอัจฉริยะบน Ethereum
  • Remix IDE: เป็นเครื่องมือออนไลน์ที่ช่วยให้คุณสามารถเขียนและทดสอบสัญญาอัจฉริยะได้โดยไม่ต้องตั้งค่าเครื่องมือในคอมพิวเตอร์ของคุณ

ตัวอย่างสัญญาอัจฉริยะง่ายๆ ที่สร้างโทเค็น ERC-20:

 

solidity start

// SPDX-License-Identifier: MIT pragma solidity ^0.8.0; contract MyToken { string public name = "My Token"; string public symbol = "MTK"; uint256 public totalSupply = 1000000; mapping(address => uint256) public balanceOf; constructor() { balanceOf[msg.sender] = totalSupply; } function transfer(address to, uint256 amount) public { require(balanceOf[msg.sender] >= amount, "Not enough tokens"); balanceOf[msg.sender] -= amount; balanceOf[to] += amount; } }

solidity end
 

5. ตั้งค่าระบบทดสอบ (Testnet)

  • ก่อนการใช้งานจริง คุณสามารถทดสอบสัญญาของคุณบนเครือข่ายทดสอบ เช่น Rinkeby, Ropsten, หรือ Goerli
  • ใช้ MetaMask เพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายทดสอบเหล่านี้ และรับโทเค็นทดสอบ (faucet) สำหรับทำธุรกรรม
     

6. สร้าง DApp (Decentralized Application)

การพัฒนา DApp จะต้องมีทั้งส่วนหน้า (Frontend) และสัญญาอัจฉริยะ (Backend):

  • Frontend: ใช้ React.js, Vue.js หรือเฟรมเวิร์กอื่น ๆ ที่คุณถนัด
  • Backend: คุณสามารถเรียกใช้สัญญาอัจฉริยะด้วย Web3.js หรือ Ethers.js ที่เชื่อมต่อกับบล็อกเชน
     

ตัวอย่างการเชื่อมต่อ DApp ด้วย Web3.js:

(javascript start)

const Web3 = require('web3'); const web3 = new Web3(Web3.givenProvider || "ws://localhost:8545");

(javascript end)
 

7. Deploy สัญญาอัจฉริยะบน Mainnet

หลังจากทดสอบสัญญาเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถ deploy สัญญาอัจฉริยะบนเครือข่ายจริง (Mainnet) ได้โดยใช้ MetaMask หรือเครื่องมืออื่น ๆ เช่น Truffle, Hardhat
 

8. เชื่อมต่อกับโทเค็นและระบบการชำระเงิน

คุณสามารถสร้างโทเค็นที่สอดคล้องกับมาตรฐาน ERC-20, ERC-721 (NFT) หรืออื่น ๆ และเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินหรือระบบ DeFi เช่น Uniswap, Aave
 

สรุป:

การสร้าง Web3 ต้องอาศัยการศึกษาเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชน การเขียน Smart Contract การพัฒนา DApp และการทำธุรกรรมในโลกดิจิทัล